โผล่อีก! หนุ่มใหญ่เชื่อฉี่เป็นยาดี ทั้งดื่ม อาบ หยอดตา ล้างแผล

โผล่อีก! หนุ่มใหญ่เชื่อฉี่เป็นยาดี ทั้งดื่ม อาบ หยอดตา ล้างแผล

จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการตีแผ่พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวใส่ปัสสาวะตัวเองในน้ำซุปให้ลูกค้ากินเพราะเชื่อว่าช่วยแก้อาการปวดเมื่อยจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาถกเถียงกันในประเด็นเรื่องปัสสาวะกันมากขึ้น และวานนี้ (23 ส.ค.) ก็มีการแชร์โพสต์หนึ่งจากกลุ่ม ‘มหัศจรรย์น้ำปัสสาวะ ยาดีที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้’ ที่โพสต์ไว้เมื่อ 11 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา เรื่องการใช้ปัสสาวะอาบน้ำและหยอดตา

ผู้โพสต์ระบุว่าตนเป็น จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม ที่จ.ราชบุรี เป็นผู้ปฏิบัติธรรม 

และชอบนั่งสมาธิ ได้บังเอิญมาเจอรุ่นพี่จิตอาสาแพทย์วิถีธรรมในงานเลี้ยง จึงได้คุยธรรมะกัน และด้วยความ ที่กินเจมาก่อนหน้านี้ 6 เดือน พี่จิตอาสาจึงได้แนะนำให้ตนลองดื่มน้ำปัสสาวะดู เพื่อแก้อาการปวดเมื่อยตัว เมื่อตนกลับถึงบ้านจึงทดลองดื่ม ทีแรกรู้สึกว่าปัสสาวะรสเค็มมาก เพราะตนกินอาหารเจรสจัด ตนจึงตัดสินใจไปค่ายสุขภาพที่ จ.มุกดาหาร และได้เข้ากลุ่มโรค ต่างๆ โดยจิตอาสาในกลุ่มได้แนะนำให้ใช้น้ำปัสสาวะล้างจมูก แก้ไซนัส หยอดหูตาและอาบน้ำ

ทุกวันนี้ตนจึงหันมาใช้ปัสสาวะหยอดตา หยอดหูในตอนเช้า พร้อมดื่มและอาบด้วย โดยตนจะใส่น้ำปัสสาวะไว้ในขวดและทิ้งไว้ข้ามคืน ก่อนที่ตอนเช้าจะนำมากรอกในตา ทำแล้วรู้สึกเย็นสบาย ตาโล่งดี และผลที่ได้คือตาจะมองเห็นชัด

มีครั้งหนึ่งที่ตนโดนสุนัขกัดที่ขาขวาจนเขี้ยวจม เลือดออกมาก แต่ก็ตัดสินใจไม่ไปหาหมอ  แต่ใช้น้ำปัสสาวะที่หมักไว้ล้างแผล ซึ่งแผลก็หายไว และยังไม่ทิ้งแผลเป็นอีกด้วย ปัจจุบันตนใช้น้ำปัสสาวะทุกวัน และได้หมักเก็บไว้เป็นขวดๆ เพื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉิน นอกจากนี้ ในกลุ่มเดียวกัน มีสมาชิกอีกรายโพสต์ว่า เด็กอายุ 4 ขวบ ‘ไข้ขึ้นสูงเนื่องจากทานไอศกรีมเยอะมีน้ำมูกมาก’ ตนจึงให้ดื่มน้ำย่านางสกัดผสมน้ำปัสสาวะและผงถ่าน ตามด้วยข้าวต้มเกลือ อีกด้วย

พ่วงมรณะ ชนกระบะ สังเวย 5 ศพ แยกบายพาส ลพบุรี เมื่อคืนวาน (23 ส.ค.) มีรายงานรถพ่วง 18 ล้อ กับระกระบะชนกันบริเวณกลางไฟแดงสายบายพาสเลี่ยงเมือง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพคือนายอานัติ แสนจันทร์ อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะ, นายจีรศักดิ์ มะตง อายุ 33 ปี, นายนรินทร์ จากโอน อายุ 36 ปี, นายจิตรกร สาระผล อายุ 19 ปี และนายณรงค์ฤทธิ์ บุตรอ่อน อายุ 34 ปี ที่เดินทางมากับรถกระบะ โดยมีผู้รอดชีวิตจากรถกระบะคันดังกล่าวเพียงคนเดียวคือ นางยุภาพร แสนจันทร์ ภรรยาของนายอานัติ คนขับรถ

ด้านคนขับรถพ่วงคือ นายสำรวย พับสระน้อย อายุ 58 ปี กล่าวว่า ตนกำลังขับรถมุ่งหน้าไปทางจ.สระบุรี โดยขับมาตามปกติจนถึงสี่แยก และเห็นสัญญาณไฟจราจรเป็นสัญญาณไฟกระพริบ จึงไม่ได้หยุดรถ ขณะที่ฝั่งรถกระบะก็ขับตรงมาจุดที่ตนจะเลี้ยว ตนมองไม่เห็นทำให้พุ่งเข้าชน

ขณะที่นางยุภาพร ผู้รอดชีวิต เล่าว่า พวกตนกำลังเดินทางไปจ.ชัยนาท โดยใช้ GPS นำทาง และขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 80-90 กม./ชม. ตรงที่เกิดเหตุ เป็นทางแยก จึงได้ชะลอรถ ก่อนรถพ่วงจะเลี้ยวพุ่งเข้ามาชน โดยที่ตนรอดชีวิตมาได้ เพราะสามีเอาตัวมาบังเอาไว้ โดยตะโกนบอกให้เก็บหัวและขา จากนั้นก็โอบกอดเพื่อป้องกันอันตราย ก่อนที่สามีจะเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา และเพื่อนๆ ที่อยู่ข้างหลังก้ถูกอัดทับเสียชีวิตทั้งหมด

เมียไม่เชื่อ เป็นอุบัติเหตุ หลังพบศพส.ท.หนองไข่น้ำ จมสระนาน 8 เดือน

จากกรณีที่มีการพบศพ นายวันชัย พิมพ์อุบล อายุ 44 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไข่น้ำ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีทอง ซึ่งจมอยู่ในสระน้ำในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอเดียวกัน โดยนายวันชัยหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2561 ล่าสุดวันนี้ (24 ส.ค.) มีรายงานว่า น.ส.ปิยวรรณ สุขขาว อายุ 37 ปี ภรรยาของนายวันชัยนั้น ได้เปิดเผยว่า สามีของตนขาดการติดต่อไป ตอนแรกตนจึงคิดว่าสามีไปติดพันหญิงอื่น แต่ก็ตัดสินใจเข้าแจ้งความคนหายเมื่อวันที่ 10 ม.ค.

หลังจากนั้น ตนก็ออกตามหาทั้งบ้านญาติ บ้านเพื่อน แต่ก็ไม่พบ กระทั่งเดือนพ.ค.พ่อสามีเสียชีวิต ตนก็ส่งข่าวบอกทางเฟซบุ๊กแต่สามีก็ยังไม่มาร่วมงาน ตนจึงรู้สึกว่าผิดปกติ เพราะสามีเป็นคนรักพ่อมาก จนกระทั่งมีการพบศพสามีในสระน้ำรีสอร์ตดังกล่าว นอกจากนี้ฝ่ายภรรยายังเล่าว่า สามีเป็นคนอัธยาศัยดี ไปทำงานก็มีแต่คนรัก พูดจาไพเราะ อ่อนน้อม ส่วนข้อสันนิษฐานที่ว่าสามีเมาขับรถตกน้ำนั้น ตนไม่คิดว่าเป็นไปได้ เพราะแม้จะเมาหนัก สามีตนสามารถขับรถกลับบ้านได้ทุกครั้ง และรีสอร์ตนี้ก็อยู่ห่างจากบ้านแค่ 1 กม.เท่านั้น

ด้าน ด.ต.ถาวร ศรีวิเศษ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองน้ำใส เล่าว่า ในวันที่นายวันชัยหายตัวไป ตนอยู่กับนายวันชัยตั้งแต่ช่วงเย็น โดยช่วยกันห่อของขวัญเพื่อนำไปจับสลาก และเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่รีสอร์ตที่เกิดเหตุในเวลาประมาณ 18.00 น. จากนั้นทั้งสองก็นั่งดื่มสุราด้วยกันจนเกือบเที่ยงคืน แล้วตนก็แยกย้ายไปนอน ส่วนนายวันชัยนั้นยังคงร่วมร้องเพลงสังสรรค์อยู่ที่งาน ซึ่งตนเห็นว่านายวันชัยแม้จะเมาแล้ว แต่ก็ยังมีสติ

ด.ต.ถาวร ระบุว่ารถของนายวันชัยจอดอยู่ข้างรถตนซึ่งอยู่ห่างจากสระว่ายน้ำประมาณ 200 เมตร และคิดว่านายวันชัยอาจจะหลงทิศ และขับรถไปทางสระน้ำเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นทางออก ซึ่งจริงๆ แล้วสระน้ำนี้ นายวันชัยก็เป็นผู้รับเหมาขุดให้รีสอร์ตเอง จึงน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ช่วงเกิดเหตุอาจมีอาการมึนเมาบวกกับความมืดรอบๆ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะใช่การฆาตกรรม แต่เป็นอุบัติเหตุ

นายหนุ่ม รักธรรม ทีมกู้ภัยทางน้ำหน่วยเฉพาะกิจ 01 มูลนิธิพุทธธรรม 31 ผู้เข้าไปกู้ร่างนายวันชัย เล่าว่า ตนได้รับแจ้งเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ เป็นข้อเท้าอยู่ในรองเท้าด้านซ้าย จึงได้จัดชุดประดาน้ำไปค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สระน้ำดังยังอยู่ในลักษณะบ่อดิน ลึก 6 เมตรแต่มีระดับน้ำ 3 เมตร นักระดาน้ำ 5 คน