วันนี้ (18 ส.ค.) เกิดเหตุระทึก รถโม่ปูนสิบล้อเสียหลักพลิกตะแคงคว่ำ กลางแยกศาลาแดง ถ.พระราม 4 ใกล้สวนลุมพินี ทำให้ปูนซีเมนต์ที่บรรทุกมาไหลเต็มถนน ส่วนคนขับรถ อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ด้านหน้าของรถบรรทุกพิมพ์ตัวอักษรบริษัทท็อปส์ และรอบๆ รถมีปูนไหลกระจายทั่วพื้นผิวการจราจร เจ้าหน้าที่กำลังเร่งประสานรถเครนเพื่อมาทำการเคลื่อนย้ายรถโม่ปูน เพื่อการจราจรกับมาใช้งานได้ตามปกติ เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบสวนพบว่า รถโม่ปูนคันนี้ ขับมาจากถนนพระราม 4 ขาเข้า
และระหว่างที่มาถึงแยกศาลาแดงเชื่อมต่อถนนราชดำริ รถเลี้ยวโค้งมาค่อนข้างแรง อีกทั้งน้ำหนักปูนจำนวนมากที่บรรทุกมา ทำให้รถเกิดเสียหลักพลิกตะแคง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนขับรถโม่ปูนหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ไประหว่างเกิดเหตุ ภายในรถพบโทรศัพท์มือถือ แต่ใช้การไม่ได้ เนื่องจากเลอะคราบน้ำมันที่ไหลออกมาจากตัวรถ แต่ทางพนักงานสอบสวยจะเชิญตัวเจ้าของบริษัทมาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี หากมีความเสียหายเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ
แพ้เป็นพระ สามเณรชนะ Speed Drifters งาน KKU Nong Khai Fair 2019
เณรแข่งเกมชนะ – สุภาษิต “แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร” ต้องสั่นคลอน เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพบรรยากาศการแข่งขัน สัปดาห์วิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย หรือ KKU Nong Khai Fair 2019 โดยเฉพาะการแข่งขันประเภท กีฬาอิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์ Speed Drifter ระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า
บรรยากาศการแข่งขันมีสามเณรหลายรูปมาเข้าร่วมประลองความเร็วด้วย สร้างความตื่นเต้นฮือฮาให้กับชาวเน็ตอย่างมาก ผลปรากฏว่าภาพตอนรับรางวัลทีมของสามเณรฝีมือยอดเยี่ยมคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองเสียด้วย มีชาวเน็ตบางคนถึงกับแซวว่า “ใส่สบงแล้วทรงพลัง”
เศร้า! พบพะยูนตายเพิ่มอีกวันนี้ ที่อ่าวต้นไทร กระบี่ วันนี้ (18 ส.ค.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รายงานทางเฟซบุ๊กว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (เจ้าหน้าที่หน่วยบริการข้อมูลข่าวสารไร่เลย์) ได้รับแจ้ง การพบซากพะยูน ซึ่งลอยมาเกยตื้นบริเวณอ่าวต้นไทร ทิศตะวันตกของไร่เลย์ ต.อ่าวนาง จ.กระบี่
ซากพะยูนดังกล่าวยังเป็นซากสด เป็นพะยูนเพศเมีย หนัก 240 กก. ความยาวลำตัวประมาณ 260 ซม. ความกว้างรอบตัวประมาณ 150 ซม. ความกว้างครีบหาง 80 ซม. มีรอยบาดแผลบนลำตัว และรอยช้ำที่ใบพายด้านซ้าย แต่ยังมีเขี้ยวครบทั้งสองคู่ ด้านผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ปกติพะยูนจะตายราวๆ ปีละ 10 ตัว แต่ปีนี้มีพะยูนตายแล้วถึง 18 ตัว และจะต้องมีความผิดปกติอย่างแน่นอน
ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวว่าวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ตนจะเข้าประชุมคณะทำงานสัตว์หายากที่กรมทะเล โดยจะประชุมทั้งแผนพะยูน ทั้งมาเรียมโปรเจ็ค ในฐานะประธาน “ผมสัญญากับเพื่อนธรณ์ว่า จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรักษาพวกเธอ ยิ่งเสียใจยิ่งต้องทำ เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้จัดเต็มแน่นอน จะมาเล่าให้ฟังตอนเย็นครับ” ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าว
เถ้าแก่มือยิงโหด 9 นัด เปิดใจ แค้นโดนตีท้ายครัว บอกให้เลิกแล้ว แต่ไม่ฟัง
จากกรณีที่ นายวราวุฒิ แซ่ตั้น อายุ 43 ปี ก่อเหตุยิงรัวยิง 9 นัด นายพนมพร พวงพลอย อายุ 25 ปี 9 จนเสียชีวิตคาที่ในอ.บางคณที จ.สมุทรสงคราม โดยหลังก่อเหตุก็รอมอบตัวกับตำรวจ และสารภาพว่าที่ทำไปเพราะตนแค้นลูกน้องที่มามีสัมพันธ์กับภรรยาตนนั้น เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า นายวราวุฒิ ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุการณ์ก่อนที่ตนจะก่อเหตุ
โดยนายวราวุฒิเล่าว่า ตนเป็นเจ้าของล้งมะพร้าว และรับรู้เรื่องที่ลูกน้องมีสัมพันธ์กับภรรยาวัย 40 ปีของตน จึงได้ขอนายพนมพรให้เลิกยุ่งกับภรรยาตน แต่ทั้งสองคนก็ปฏิเสธไม่ยอมเลิกรากัน วันเกิดเหตุ ทั้งคู่ขับรถมาขนมะพร้าวคันเดียวกัน และตนก็ขับตามมาด้วยความแค้น ก่อนจะเปิดฉากยิงผู้ตายไป 9นัด และเล่าว่าเป็นการยิงครั้งแรก หลังเกิดเหตุ ภรรยาตนก็ร้องไห้เสียใจอยู่ข้างผู้ตาย โดยไม่เดินไปหาตนแต่อย่างใด
ขณะที่ นางประนอม พวงพลอย อายุ 54 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ แฟนของลูกมารับตัวลูกไปจากบ้านออกไปทำงาน หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินว่าลูกถูกยิงตาย ตนเองรู้สึกเสียใจ และตกใจ ทำอะไรไม่ถูก อย่างไรก็ตาม ลูกชายตนได้เลิกทำงานที่ล้งมะพร้าวของนายวราวุฒิมานานกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนตัวตนไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่บอกว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก
เป็นเรื่องสะเทือนใจคนเป็นแม่สุดๆ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก J-juneny Nuchananrt ได้เผยภาพลูกสาวตัวน้อย ที่ถูกครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพัทยา ใช้ไม้ตีหน้าจนตาขวาและหน้าบวม และอ้างว่าลงโทษเพราะเด็กบวกเลขช้า แม่เด็กระบุว่า ผลตรวจเอ็กซเรย์รอบที่ 2 ออกมาแล้ว และศีรษะของลูกสาวไม่มีอาการร้าว แต่มีอาการช้ำหรือเลือดคั่ง โดยทางแพทย์ได้ให้ยาแก้ปวดมาและให้ประคบเย็นบ่อยๆ และแพทย์ระบุว่าที่มีอาการบวมแดงขนาดนี้เนื่องจาก เด็กโดนตีกลางหัว
โดยแม่เด็กได้เข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้ว และวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) จะเข้าไปพูดคุยกับทางโรงเรียนว่าจะมีมาตรการจัดการอย่างไรกับครูรายนี้ “เรื่องนี้ครูต้องรับผิดชอบไม่ยอมเหมือนกัน โดนขนาดนี้ ถ้าไม่เอาเรื่องหรือไม่พูดและทำอะไรเลยเด็กคนอื่นๆ ก็อาจจะโดนเช่นกัน” แม่เด็กกล่าว หลังจากโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางส่วนยืนยันว่ากรณีนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ครูรายนี้ทำร้ายเด็ก แต่ก็ยังสามารถสอนหนังสือต่อไปได้เหมือนเดิม และบางความคิดเห็นก็แนะนำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องผิดกฎโรงเรียนแล้ว แต่เป็นผิดกฎหมายอาญา